ผลสำรวจบริษัทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) จำนวน 48 บริษัท จากทั้งหมด 50 บริษัท พบว่ามี 32 บริษัทประกาศปรับตัวเลขคาดการณ์รายได้ในปีงบประมาณ 2021 ให้สูงขึ้นจากเดิม สืบเนื่องจากความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่พุ่งสูง

 

ชิปขาดตลาด - กักตุนชิ้นส่วน 

ในช่วงเดือนเมษายน - กันยายน 2021 ภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สามารถผ่านพ้นวิกฤตซัพพลายเชนที่รุนแรงมาได้ เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบมากนักเหมือนเช่นอุตสาหกรรมยานยนต์ 

โดยจากบริษัทชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 50 บริษัท พบว่ามี 47 บริษัทที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันในปีงบประมาณ 2020 ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตชิปขาดตลาดทำให้ลูกค้าหลายรายเร่งสต๊อกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ยอดออเดอร์พุ่งสูงเป็นอย่างมาก และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหากสถานการณ์ชิปยังคงไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด 

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มนี้ทำให้เกิดความกังวลว่าราคาผลิตภัณฑ์จะลดลงหรือไม่ เนื่องจากเมื่อมีผู้กักตุนชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนมากอาจทำให้ชิ้นส่วนล้นตลาด ส่งผลให้ความต้องการและราคาชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ลดลง

 

ความไม่แน่นอนของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

อย่างไรก็ตาม หลายบริษัทคาดการณ์ว่าหลังจากนี้อุตสาหกรรมอิเล็กทคอนิกส์จะเริ่มชะลอตัว โดยยกให้ช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี 2021 เป็นช่วงพีคที่เกิดจากการเร่งสต๊อกสินค้า จากนั้นยอดออเดอร์ก็จะเริ่มลดลง ซึ่งราว 30% ของผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อรายได้ในปีงบประมาณนี้ และยกให้เป็นความเสี่ยงที่ต้องจับตามอง

อีกความเสี่ยงหนึ่งคือทิศทางหลังจากนี้ เนื่องจากปัจจุบันยอดออเดอร์ที่พุ่งสูงในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มาจากอุตสาหกรรมยานยนต์และสมาร์ทโฟน ซึ่งทั้งสองอุตสาหกรรมนี้ยังมีความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย ซึ่งหากเกิดการขาดแคลนชิ้นส่วนอื่น ๆ จนไม่สามารถผลิตออกขายได้ ก็จะย่อมกระทบต่อความต้องการชิ้นส่วนอิเล้กทรอนิกส์โดยตรง อีกทั้งหากรถยนต์และสมาร์ทโฟนมีราคาแพงขึ้นตามต้นทุนแล้ว มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาลในหลายประเทศคงไม่เพียงพอที่จะจูงใจผู้บริโภคอีกต่อไป

 

แนวโน้มความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่สุ่มเสี่ยงก็ยังมีความหวัง โดย Takumi Sado หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Daiwa Securities แสดงความเห็นว่าแม้จะพ้นช่วงพีคของความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไป แต่ท้ายสุดการผลิตทั่วโลกก็จำเป้นต้องฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยให้ความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มกลับขึ้นมาได้ โดยเฉพาะจากกลุ่มยานยนต์

โดยปัจจุบัน ค่ายรถหลายค่ายประสบปัญหาชิ้นส่วนไม่พอผลิต เช่น โตโยต้ามียอดผลิตไม่เป็นไปตามเป้า อย่างไรก็ตาม ก็มีรายงานว่าทางโตโยต้ามีแผนเพิ่มกำลังผลิตในญี่ปุ่นในช่วงเดือนธันวาคม 2021 ส่วนค่ายรถค่ายอื่น ๆ ก็จำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูกำลังการผลิตกลับมาเพื่อให้บริษัทเดินหน้าต่อได้ในปี 2022 

นอกจากนี้ 5G ก็ยังเป็นเรื่องใหม่ และมีหลายประเทศที่กำลังจะเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน หรือยังไม่นำ 5G มาใช้ และจะกลายเป็นอีกหนึ่งตลาดที่สำคัญในอนาคต ซึ่ง Daiwa Securities แสดงความเห็นว่าปัญหาคอขวดจากซัพพลายเชนจะยังอยู่กับอุตสาหกรรมการผลิตไปอีกนาน และท้ายสุดผู้ผลิตก็จำเป็นต้องปรับตัวให้ได้ และคาดการณ์ว่าจะนำมาซึ่งการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคต อีกทั้งยังมีความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่างระบบอัตโนมัติอีกด้วย

 

ที่มา : M Report